เครื่องชั่งในห้องแล็บ
เครื่องชั่ง Mettler Toledo คือหัวใจของห้องแล็บที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการชั่งสารเคมีที่น้ำหนักน้อย หรือ การชั่งตัวอย่างที่ต้องการความละเอียดระดับไมโครกรัม ทุกฟังก์ชันถูกออกแบบมาเพื่อให้การชั่งน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายและเชื่อถือได้


ทำไมต้องใช้ เครื่องชั่งในห้องแล็บ Mettler Toledo
เพราะความแม่นยำระดับไมโคร ต้องคู่กับมาตรฐานระดับโลกจาก Mettler Toledo
เครื่องชั่งในห้องแล็บ ที่แม่นยําและมีประสิทธิภาพสูงหลากหลายประเภท ช่วยให้ห้องปฏิบัติการทั่วโลกลดขั้นตอนการทํางาน ออกแบบมาอย่างสวยงาม และใช้งานง่ายตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า
เครื่องชั่ง Mettler Toledo มีหลากหลายประเภท เช่น เครื่องชั่งวิเคราะห์ (Analytical Balances) ที่มีความละเอียดสูงถึง 0.1 ไมโครกรัม เหมาะสำหรับการชั่งตัวอย่างที่มีน้ำหนักน้อยและต้องการความแม่นยำสูง หรือเครื่องชั่งความละเอียดสูง (Precision Balances) ที่รองรับน้ำหนักได้มากขึ้นและมีความละเอียดตั้งแต่ 0.1 มิลลิกรัมถึง 1 กรัม เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการชั่งน้ำหนักสารเคมีที่น้ำหนักน้อย การชั่งตัวอย่างที่ต้องการความละเอียดระดับไมโครกรัม หรือ การใช้งานในห้องปฏิบัติการที่มีความต้องการเฉพาะ
เครื่องชั่ง Mettler Toledo ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้นอย่างครบถ้วน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและฟังก์ชันหลากหลาย เพื่อให้มั่นใจในความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของผลการชั่งน้ำหนัก


เครื่องชั่งสำหรับห้องปฏิบัติการของ METTLER TOLEDO
เครื่องชั่งเหล่านี้ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างเชี่ยวชาญและผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ การใช้งานที่ราบรื่น และอายุการใช้งานของเครื่องชั่งที่ยาวนาน
เปรียบเทียบกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องชั่งเทียบเคียงกัน
กลุ่ม Excellence | กลุ่ม Advanced | กลุ่ม Standard | ||||
XPR | XPR – E | MX | MR | MA | LA | |
รองรับการชั่งน้ำหนักด้วยความแม่นยำสูงสุด | ใช้งานง่ายขึ้นแต่ยังคงความแม่นยำสูง | ฟีเจอร์อัจฉริยะรองรับงานวิเคราะห์ที่ซับซ้อน | เครื่องชั่งอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลาย | ออกแบบเพื่อการใช้งานประจำวันได้อย่างสะดวก | ใช้งานง่ายและเชื่อถือได้ | |
ช่วงพิกัดการชั่ง | 2 ก. – 64 กก. | 3.2 ก. – 320 ก. | 120 ก. – 32 กก. | 120 ก. – 6.2 กก. | 52 ก. – 32 กก. | 82 ก. – 4.2 กก |
ค่าอ่านละเอียดสูงสุด | 0.0001 มก. | 0.01 มก. | 0.01 มก. | 0.1 มก. | 0.01 มก. | 0.1 มก. |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
โดยทั่วไปแนะนำให้สอบเทียบปีละ 1 ครั้ง แต่หากใช้งานในกระบวนการที่ต้องการความแม่นยำสูง ควรสอบเทียบทุก 6 เดือน
การดูแลรักษาเครื่องชั่งเบื้องต้นที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ ได้แก่
- ทำความสะอาดตัวเครื่องอย่างสม่ำเสมอด้วยแปรงปัดฝุ่น
- ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดภายนอกตัวเครื่อง
- หากมีสารเคมีหรือน้ำหกใส่ ควรรีบทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันความเสียหาย
ในด้านของระบบไฟฟ้า ควรใช้ไฟฟ้าที่มีแรงดันคงที่ 220 โวลต์ ±1% และปราศจากไฟกระชากหรือสัญญาณรบกวนไฟฟ้า หากระบบไฟฟ้าของผู้ใช้งานไม่เสถียร แนะนำให้ติดตั้ง UPS แบบ True Online เพื่อป้องกันความเสียหายของวงจรภายใน และรักษาความแม่นยำของการชั่ง
เครื่องชั่งที่สามารถเชื่อมต่อส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ได้ จะต้องมีพอร์ตสำหรับการสื่อสาร เช่น RS232, USB หรือ Ethernet
หากเครื่องชั่งของท่านมีพอร์ตดังกล่าว ท่านสามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
ทั้งนี้ คอมพิวเตอร์จะต้องติดตั้ง ซอฟต์แวร์หรือไดรเวอร์ ที่รองรับการรับส่งข้อมูลจากเครื่องชั่ง เพื่อให้ระบบสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
เพื่อให้เครื่องชั่งสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและเสถียร ควรติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ดังนี้
- พื้นที่ติดตั้งควรไม่มีแรงสั่นสะเทือน หรือมีการสั่นสะเทือนให้น้อยที่สุด
- ไม่ควรตั้งเครื่องชั่งใกล้บริเวณที่มีประตูเปิด–ปิดบ่อยครั้ง เนื่องจากลมที่พัดผ่านอาจกระทบกับเครื่องชั่ง ทำให้น้ำหนักไม่นิ่ง
- ห้องที่ติดตั้งควรมีอุณหภูมิคงที่ ประมาณ 25 °C ± 3 °C และมีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 50 % ± 10 % RH
- หลีกเลี่ยงการตั้งเครื่องชั่งใกล้กับอุปกรณ์ที่ปล่อยความร้อน เช่น เตา หรืออุปกรณ์ที่มีสนามแม่เหล็ก เพราะอาจรบกวนค่าการชั่ง
- ไม่ควรวางเครื่องชั่งใกล้หน้าต่างที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง หากจำเป็นควรมีผ้าม่านหรือวัสดุป้องกันแสงแดดติดตั้งร่วมด้วย
การปรับระดับลูกน้ำของเครื่องชั่ง (Leveling) เป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้เครื่องชั่งสามารถวัดค่าน้ำหนักได้อย่างแม่นยำ โดยมีหลักการและ ขั้นตอนดังนี้
ทำความเข้าใจการอ่านลูกน้ำ
- หากลูกน้ำเอียงไปทางใด แสดงว่าทิศทางนั้นสูงกว่าทิศอื่น
- การหมุนขาปรับตามเข็มนาฬิกา = ขานั้น “ยกสูงขึ้น”
- การหมุนขาปรับทวนเข็มนาฬิกา = ขานั้น “ลดต่ำลง”
ขั้นตอนการปรับระดับลูกน้ำ
- เริ่มต้นโดยหมุนขาทั้งหมด ทวนเข็มนาฬิกา เพื่อลดระดับเครื่องชั่งลงจนสุดทุกขา
- สังเกตตำแหน่งของลูกน้ำ ว่าเอียงไปทางใด
- ปรับขาด้านที่ต่ำโดยหมุน ตามเข็มนาฬิกา ทีละน้อย จนลูกน้ำเคลื่อนเข้าสู่ “ตำแหน่งกึ่งกลาง” ของวงกลมบนลูกน้ำ
- ตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเครื่องอยู่ในแนวระนาบสมดุล
หมายเหตุ: เครื่องชั่งที่ปรับระดับได้ถูกต้อง จะช่วยลดความคลาดเคลื่อนในการวัดน้ำหนัก โดยเฉพาะในเครื่องชั่งความละเอียดสูง
การที่เครื่องชั่งมีระบบลูกตุ้มน้ำหนักภายใน (Internal Calibration Weight) ช่วยเพิ่มความแม่นยำและสะดวกในการสอบเทียบเครื่อง โดยมีข้อดีหลักๆ ดังนี้
- สอบเทียบได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ตุ้มน้ำหนักภายนอก
- ผู้ใช้งานสามารถสั่งสอบเทียบได้โดยตรงจากตัวเครื่อง ด้วยการใช้งานลูกตุ้มน้ำหนักที่ติดตั้งอยู่ภายใน
- รองรับฟังก์ชันการสอบเทียบอัตโนมัติ
- เครื่องชั่งรุ่นที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น FACT, ProFACT หรือ ฟังก์ชันอื่นๆ จะสามารถดำเนินการสอบเทียบอัตโนมัติได้ในกรณีต่อไปนี้
- เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง เช่น ±1°C ซึ่งอาจมีผลต่อค่าชั่งน้ำหนัก
- เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เครื่องจะทำการสอบเทียบโดยอัตโนมัติ
- การสอบเทียบลักษณะนี้ช่วยรักษาค่าความแม่นยำตลอดการใช้งาน โดยไม่ต้องพึ่งพาบุคลากรภายนอก
- เครื่องชั่งรุ่นที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น FACT, ProFACT หรือ ฟังก์ชันอื่นๆ จะสามารถดำเนินการสอบเทียบอัตโนมัติได้ในกรณีต่อไปนี้
หมายเหตุ: การใช้ระบบ Internal Calibration Weight เหมาะอย่างยิ่งกับเครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการที่ต้องการความแม่นยำระดับสูง และช่วยลดความผิดพลาดจากปัจจัยแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกใช้ลูกตุ้มน้ำหนักในการตรวจสอบเครื่องชั่ง ควรอ้างอิงตามวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ และพิกัดของเครื่องชั่ง โดยมีรายละเอียดและหลักเกณฑ์ ดังนี้:
7.1 ประเภทของการทดสอบ
- Sensitivity Test
เป็นการตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องชั่งเมื่อตำแหน่งวางน้ำหนักอยู่ “ตรงกลางของจานชั่ง” เพื่อดูว่าค่าน้ำหนักที่แสดงผลถูกต้องหรือไม่ - Eccentricity Test
เป็นการตรวจสอบผลกระทบเมื่อวางน้ำหนัก “ไม่ตรงกลาง” ของจานชั่ง โดยดูว่าค่าที่ได้มีความคลาดเคลื่อนเท่าใด
7.1.1 กรณีเครื่องชั่งที่มีพิกัดไม่เกิน 60 กิโลกรัม
- ให้ใช้ตุ้มน้ำหนักมาตรฐานที่มีค่าน้ำหนัก 100% ของพิกัดสูงสุดของเครื่อง (ใช้ตุ้มลูกเดียว)
- ตัวอย่าง: เครื่องชั่งพิกัด 220 กรัม → ให้ใช้ตุ้มน้ำหนัก 200 กรัม
7.1.2 กรณีเครื่องชั่งที่มีพิกัดมากกว่า 60 กิโลกรัมขึ้นไป
- ให้ใช้ตุ้มน้ำหนักมาตรฐานที่มีค่าน้ำหนัก ประมาณ 33% ของพิกัดสูงสุด (ใช้ตุ้มลูกเดียว)
- ตัวอย่าง: เครื่องชั่งพิกัด 100 กิโลกรัม → ให้ใช้ตุ้มน้ำหนัก 20 กิโลกรัม
7.2 Repeatability Test (การชั่งซ้ำ)
- เป็นการตรวจสอบความคงที่ของค่าน้ำหนักที่เครื่องแสดงเมื่อมีการชั่งวัตถุเดียวกันซ้ำ ๆ
- แนะนำให้ใช้ตุ้มน้ำหนักที่ 5% ของพิกัดสูงสุดของเครื่อง (ใช้ตุ้มลูกเดียว)
- ตัวอย่าง: เครื่องชั่งพิกัด 220 กรัม → ให้ใช้ตุ้มน้ำหนัก 10 กรัม
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
ควรใช้ลูกตุ้มน้ำหนักมาตรฐานที่ผ่านการสอบเทียบ (Calibration) และได้รับการรับรองความแม่นยำตามมาตรฐานสากล เช่น OIML Class F1 หรือ E2 เป็นต้น
ความรู้เกี่ยวกับเครื่องชั่งในห้องแล็บ
บทความและคู่มือความรู้ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการเลือกใช้ ดูแล และใช้งานเครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ