บทความเครื่องแก้วในห้องแลป

“Glassware” ไม่ใช่แค่แก้วใส แต่คือหัวใจของทุกการทดลอง

เวลาพูดถึง “เครื่องแก้วในห้องแล็บ” หลายคนอาจนึกถึงบีกเกอร์หรือหลอดทดลองธรรมดา ๆ แต่จริง ๆ แล้ว เครื่องแก้วคือหัวใจของความแม่นยำในการทดลองทุกขั้นตอน เพราะความสะอาด โปร่งใส และการทนความร้อนของมัน มีผลโดยตรงต่อผลการทดสอบ แค่บีกเกอร์ที่หนาไป 1 มิล ก็อาจทำให้ค่าผิดพลาดได้เป็นเท่าตัว!

ทำไม “เครื่องแก้ว” ถึงสำคัญกว่าที่คิด

ในห้องแล็บระดับมืออาชีพ เครื่องแก้วไม่ได้แค่สวย แต่ต้อง “สมบูรณ์แบบ”
– ความร้อนสูง ? ไม่หวั่น เพราะทำจาก Borosilicate Glass ทนได้ถึง 400°C
– สารเคมีแรง ? ไม่ละลาย ไม่เปลี่ยนสี
– ต้องการค่าที่แม่นยำ ? ขีดวัดถูกคำนวณตามมาตรฐาน ISO
และ นั่นคือเหตุผลที่เครื่องแก้วดีๆ อย่าง PYREX, Duran, Simax ถูกเลือกใช้ในห้องแล็บระดับโลก

รู้จักเครื่องแก้วแต่ละแบบ เหมือนรู้จักอุปกรณ์คู่ใจ

  1. Beaker — ใช้ผสม ละลาย หรืออุ่นสาร
  2. Flask (Erlenmeyer / Round Bottom) — สำหรับทำปฏิกิริยาและกลั่นสาร
  3. Graduated Cylinder — ใช้ตวงของเหลวอย่างแม่นยำ
  4. Pipette & Burette — ตัวจริงสายไทเทรต วัดละเอียดระดับไมโครลิตร
  5. Test Tube — ใช้ทดลองขนาดเล็ก หรือทำปฏิกิริยาในขั้นต้น

เครื่องแก้วแต่ละชนิดมีบุคลิกของมัน บางชิ้นชอบความร้อน บางชิ้นชอบความเย็น และบางชิ้น… ชอบความสะอาดสุด ๆ 

ดูแลเครื่องแก้วให้เหมือนดูแลเครื่องมือแพง ๆ

เครื่องแก้วอาจดูแข็งแรง แต่จริง ๆ แล้วเปราะบางมาก ดูแลถูกวิธี = ใช้ได้นาน + แม่นยำ
– ล้างด้วยน้ำกลั่นหลังใช้งานทุกครั้ง
– อย่าใช้น้ำยาล้างจานทั่วไป เพราะอาจทิ้งสารตกค้าง
– ห้ามเอาแปรงโลหะหรือฟองน้ำหยาบมาถู
– ตรวจรอยแตกร้าวก่อนใช้เสมอ
– เก็บให้ห่างจากขอบโต๊ะ — เพราะตกทีเดียว… จบ!

เครื่องแก้วดี ๆ หาได้ที่ไหน? ที่นี่เลย!

บริษัท My Lab Scale Co., Ltd. จำหน่ายเครื่องแก้วคุณภาพสูงทุกชนิด ตั้งแต่ Beaker, Flask, Pipette ไปจนถึงขวดเก็บสารแบบ Amber Glass พร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านห้องแล็บ มั่นใจในคุณภาพ มาตรฐาน และบริการหลังการขายระดับมืออาชีพ
“เพราะเครื่องแก้วที่ดี คือจุดเริ่มต้นของผลทดลองที่แม่นยำ”

       เครื่องแก้วไม่ใช่ของธรรมดาในห้องแล็บ แต่มันคือเครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือให้ทุกผลการทดลอง เลือกเครื่องแก้วที่ดี เท่ากับยกระดับมาตรฐานแล็บของคุณขึ้นอีกขั้น  

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องแก้วในห้องแล็บ

Q1: เครื่องแก้วในห้องแล็บมีกี่ประเภท?

โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. เครื่องแก้วสำหรับตวง (เช่น Graduated Cylinder, Pipette, Burette)

2. เครื่องแก้วสำหรับผสม (เช่น Beaker, Flask)

3. เครื่องแก้วสำหรับเก็บสาร (เช่น ขวด Reagent, Amber Bottle)

4. เครื่องแก้วสำหรับให้ความร้อน (เช่น Flask ทรงกลม, Test Tube)

5. เครื่องแก้วเฉพาะทาง (เช่น Desiccator, Condenser, Funnel)

Q2: ทำไมเครื่องแก้วต้องใช้แบบ “Borosilicate Glass”?

เพราะเป็นแก้วที่ทนความร้อนสูง ไม่แตกง่าย และไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี จึงเหมาะสำหรับการทดลองที่ต้องอุ่นสารหรือใช้สารเคมีเข้มข้น เช่น กรด–ด่าง

Q3: วิธีทำความสะอาดเครื่องแก้วที่ถูกต้องคืออะไร?

1. ล้างด้วยน้ำกลั่นหรือน้ำประปาใสก่อน

2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับเครื่องแก้ว (เช่น Decon, RBS)

3. ล้างซ้ำด้วยน้ำกลั่นอีกครั้ง

4. ผึ่งให้แห้งในตู้ลมร้อน หรือคว่ำในตู้ฆ่าเชื้อ

⚠️ ไม่ควรใช้แปรงโลหะหรือผงขัด เพราะอาจทำให้เกิดรอยที่ส่งผลต่อการวัดค่าได้

Q4: เครื่องแก้วแตกง่ายไหม? มีเคล็ดลับยืดอายุไหม?

แตกได้ถ้าโดนกระแทกหรือเปลี่ยนความร้อนเร็วเกินไป เคล็ดลับคือ “อุ่นทีละขั้น – เย็นทีละนิด” และไม่วางใกล้ขอบโต๊ะ รวมถึงตรวจรอยร้าวก่อนใช้งานทุกครั้ง

Q5: ควรซื้อเครื่องแก้วยี่ห้อไหนดี?

ขึ้นอยู่กับงบประมาณและประเภทงาน เช่น

– PYREX, Duran, Simax → สำหรับงานวิจัยและควบคุมคุณภาพระดับสูง

– HARIO, Iwaki → สำหรับงานทั่วไปในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย

– My Lab Scale Selection → เหมาะกับแล็บอุตสาหกรรมและบริการสอบเทียบ

Q6: ซื้อเครื่องแก้วจาก My Lab Scale ดียังไง?

• รับประกันสินค้าแท้จากผู้ผลิตโดยตรง

• มีบริการแนะนำการเลือกใช้ให้เหมาะกับประเภทงาน

• จัดส่งทั่วประเทศ พร้อมใบเสนอราคาอย่างเป็นทางการ

• มีทีมช่างเทคนิคให้คำปรึกษาหลังการขาย

Q7: เครื่องแก้วเก่าหรือมีรอยขุ่นยังใช้ได้ไหม?

ถ้าเป็นเพียงคราบทั่วไปสามารถล้างและใช้งานต่อได้ แต่หากมีรอยร้าว หรือฝ้าขุ่นจากสารเคมีกัดกร่อน แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยและความแม่นยำของผลการทดลอง

แชร์โพสต์ :